รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ แจ้งกับ ตลท.ว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 398.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,634.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.30 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของกลุ่มโรงไฟฟ้า และมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยประสบความสำเร็จในการลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าถึง 4.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม ทั้ง 5 โครงการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 200,000 ตัน ต่อปี

ขณะที่ บลจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ อีเอ มีกำไรสุทธิ 2,319.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 953.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 69.78% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 1,366.31 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากผลดำเนินงานของธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่สูงขึ้นคำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น

ด้าน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ จีพีเอสซี ธุรกิจไฟฟ้าในกลุ่ม ปตท. มีรายได้รวม 27,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 1,118 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 804 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 257% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากการปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ของงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 66 ที่สะท้อนต้นทุนพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมสูงขึ้นแม้ว่าปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำในกลุ่มอุตสาหกรรมจะลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงของลูกค้าอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกก็ตามคำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 66 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้ รวม 2,686 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 65 โดยมาจากปัจจัยบวกมาจากรายได้การขายไฟฟ้าและไอน้ำของโรงไฟฟ้าบาง-ปะอิน โคเจนเนอเรชั่น ที่เพิ่มขึ้น 161 ล้านบาท หรือ 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นตามสถานการณ์ในตลาดโลก รวมถึงการประกาศปรับเพิ่มค่าเอฟทีขายปลีกโดยภาครัฐ