นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ในปีนี้ ธนาคารจะมีผลกำไรสุทธิถึง 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท และสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดที่อยู่ในระดับกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้เกิดการจากปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ แต่มาจาก 2 ส่วนสำคัญ คือ การตัดลดค่าใช้จ่ายปีละ 1 หมื่นล้านบาท และ การเดินนโยบายช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าของธนาคารไปในตัวคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ ส่งผลให้ฐานลูกค้ารายย่อย ได้เพิ่มขึ้นจาก 1.57 ล้านรายใน 2 ปีก่อน เป็น 3.57 ล้านคนในปีนี้ ขณะที่ หนี้เสียของธนาคารยังอยู่ในระดับที่ต่ำราว 3% ของสินเชื่อคงค้างอย่างไรก็ดี ธนาคารได้ตั้งสำรองเพิ่มไปแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทำให้ธนาคารมีสถานะการเงินที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ปีหน้าเราจะตั้งบริษัทลูกทำธุรกิจนอนแบงก์ ดอกเบี้ยจะลดลงจาก 33% เหลือประมาณ 28% สิ่งเหล่านี้ เราทำมาตลอด 3 ปี รวมกว่า 60 โครงการ จะช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นกว่า 3 ล้านราย ทำให้ฐานลูกค้ารวมของเราใหญ่ขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ปัจจุบัน ธุรกิจนอนแบงก์ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธุรกิจนี้ จะสามารถดึงคนที่เครดิตต่ำหรือไม่มีเครดิต ที่ไม่สามารถกู้จากสถาบันการเงินตามปกติได้ สามารถมาขอกู้จากนอนแบงก์ได้ จึงไม่ต้องหันไปกู้เงินนอกระบบ”
นายวิทัยกล่าวยืนยันว่า จะตรึงดอกเบี้ยให้นานถึงสิ้นปี 66 จากนั้น จะดูสถานการณ์อีกครั้ง โดยการที่กำไรเพิ่มขึ้นมา ไม่ได้มาจากขึ้นดอกเบี้ย แต่มาจากการหารายได้ส่วนอื่นมาชดเชย ได้แก่ การขยายขอบเขตธุรกิจในการช่วยคน โดยการเข้าไปทำธุรกิจใหม่ลดดอกเบี้ยให้ และให้กลุ่มฐานรากเขาสู่ระบบสินเชื่อ เป็นต้น และเรายังลดต้นทุนอย่างรุนแรง จึงทำให้กำไรของออมสินเพิ่มขึ้น
“เรายืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานถึงสิ้นปี 66 จากนั้น จะดูสถานการณ์อีกครั้งหากเงินฝากตึงตัวมากๆ ก็จะต้องดูสถานการณ์แข่งขันของเงินฝากประกอบการพิจารณาด้วย เนื่องจาก ต้นทุนหลักธนาคาร คือ เงินฝาก ซึ่งโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของออมสิน ถือว่า ต่ำกว่าระดับทั่วไปค่อนข้างมาก แม้ว่า ลูกหนี้รายย่อยจะมีความเสี่ยงสูง ซึ่งหากธนาคารต้องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้สะท้อนถึงความเสี่ยงของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ธนาคารจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยขึ้นอีก 0.50- 0.75 % แต่ธนาคารยังไม่ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามความเสี่ยงดังกล่าว”
สำหรับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่านการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบและนอกระบบนั้น ธนาคารก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโดยธนาคารได้เสนอแนวทางในการเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ส่วนรัฐบาลจะพิจารณาในแนวทางใด ต้องรอความชัดเจน ซึ่งเข้าใจว่า รัฐบาลจะประกาศในเร็วๆนี้